Sunday, April 15, 2012

เกร็ดความรู้กีต้าร์ #13 ร้านนครหลวงการดนตรี ต้องเขียนถึง เพราะงดงาม

สวัสดีครับ นักกีต้าร์ไทย

   ในฐานะที่ผมเป็น นักกีต้าร์ คนหนึ่ง ขณะนี้เล่นกีต้าร์มาได้เกือบจะ 3 เดือนแล้ว ต้องขอเล่าถึง ร้านจำหน่ายเครื่องดนตรีร้านหนึ่ง ที่ผมชื่นชอบ จริงๆ เรียกว่าร้านจำหน่ายกีต้าร์ไปเลยก็ไม่น่าจะิผิด เพราะร้านเครื่องดนตรีในไทย ก็เน้นกีต้าร์กันเกือบหมดครับ

    ร้านนี้มีชื่อว่า  นครหลวงการดนตรี  เป็นร้านที่มีชื่อเสียงมานานแล้วในเรื่อง มารยาท การบริการ ความเอาใจใส่ลูกค้า บรรยากาศในร้าน และอื่นๆ  เหตุที่เป็นเช่นนี้ เพราะอะไร เรามาดูกัน

    ยกตัวอย่างร้านสาขาที่ Fortune ถ.รัชดา ชั้น 3 เป็นร้านขนาดย่อมๆ แต่เยอะน้ำใจ ผมไปเยี่ยมมาแล้ว 2 ครั้งในช่วง 1 เดือน ได้เห็นอะไรที่น่าชื่นชมอยู่ไม่น้อย นั่นคือ พนักงานของร้าน จะให้ความเป็นกันเองกับลูกค้ามากๆ ครั้งแรกที่ไป ก็เห็นพนักงานท่านนี้ คุยกับกลุ่มลูกค้า อย่างสนิทสนม กลุ่มแรกเป็นเด็กหนุ่ม มาหาซื้อกีต้าร์โปร่งไฟฟ้า  มี 3 คน คุยกันเหมือนเคยรู้จัีกกันมาก่อน เด็กกลุ่มนั้นเรียก พี่พนักงานขายว่า พี่ดา ซึ่งผมได้รู้จักเธออีกครั้งจากกระดานกีต้าร์แห่งหนึ่งในภายหลัง ทุกคนในกระดานชม พี่ดาคนนี้มาก

    ในวันนั้้นยังมี เด็กหญิงอายุราวๆ 13-14 มากับพ่อแม่ มาซื้อกีต้าร์คลาสสิค อีกด้วย จะเห็นว่า ใครก็ลองได้แบบสบายๆ หากีต้าร์ที่เหมาะกับเราจริงๆ พี่ดา จะคอยแนะนำ พาเลือก และอำนวยความสะดวกแบบมืออาชีพจริงๆ ครับ คืิอเอาง่ายๆ ไม่ทำให้ มือใหม่ วิตกกังวล คอยแนะนำ เกร็ดต่างๆ ให้ด้วย

    ผมซึ่งเข้าไปใหม่ๆ มาครั้งแรก เห็นพี่ดาวุ่นๆ เลยคิดแค่เดินชมร้านพอ เดี๋ยวกลับแล้ว แต่พี่ดา มาบอกว่า ลองได้ทุกตัวตามสบายนะคะ ผมก็ตกใจ เฮ้ย อ่านมาจากกระดาน เขาว่า นครหลวงการดนตรี บริการดีให้ลองได้ นี่เรื่องจริงหรือนี่ จากนั้น พี่เขาลากเก้าอี้ มาเลยครับ ให้ผมนั่งมุมส่วนตัวเลย แล้วก็ถือแอมป์มาพร้อมสาย นั่งเสียบให้เรียบร้อย ผมได้ลองเล่นกีต้าร์ไฟฟ้า ไป 3 ตัวใช้เวลาราวๆ 20 นาที อิ่มใจมาก ผมเชื่อเลยครับ ว่า ร้านนี้ นครหลวงการดนตรี ไม่ธรรมดา ครับ

     ในทัศนะของผม การให้ลอง คือ การสะท้อนให้เห็นว่า พนักงานทุกคน มีทักษะในการขาย คุยเป็น อะไรเป็น เมื่อได้ลองลูกค้าประทับใจ ไม่ซื้อวันนี้ วันหน้าซื้อ หากของดีเหมือนกันทั้ง 2 ร้าน ใจมันก็ต้องคิดตอบแทน มันต้องมาที่ นครหลวงการดนตรี วันยังค่ำ เป็นแนวทางที่เดินมาถูกต้อง หากมองในการตลาดก็คือ นครหลวงการดนตรี ซื้อใจกันแบบว่า ตลอดชีวิต และ ยังถ่ายทอดไปยังรุ่นลูก หลานของเราอีกด้วย แล้วมันก็จริืงๆ ขณะที่่ร้านอื่น ทุ่มโฆษณากันตูมๆ ผมว่านครหลวงการดนตรี ไม่จำเป็นต้องโฆษณาเลยครับ

     ผมจากมาในวันแรกด้วยความชื่นชม มีความสุข เพราะผมได้ลองกีต้าร์ไฟฟ้าสมใจ

     ครั้งที่ 2 ไปเยือนอีกครั้ง พี่ดา ก็ยังให้บริการ อย่างมืออาชีพทุกครั้ง ยังจัดหาเก้าอี้ ยกแอมป์มาให้เหมือนเดิม แสดงว่า นี่เป็นบริการ มาตรฐานของ นครหลวงการดนตรีจริงๆ และ สำทับด้วยประโยค เดิม คือ ลองได้หมดนะคะ หยิบลองได้ตามสบาย

     อย่างไรก็ตาม ผมขอให้เรา ลูกค้าก็ต้องระมัดระวังนะครับ อย่าไปทำให้เกิดรอย บนกีต้าร์ของเขา หยิบจับถนอมๆ ด้วย เขาบริการเราดีขนาดนี้แล้วนะครับ

                      ตัวที่ผมลอง Hamer คล้ายๆ กัน แต่ลายมีสีสรรกว่านี้ แต่ของเขาดีจริงๆ ครับ ขอเชียร์ 100%

     วันนี้ลองได้สักพัก พี่เขายังแนะนำ เพิ่่มว่า มี Hamer ด้วยนะคะ หยิบลองกันได้เลย เต็มที่ๆ ราคา 15000 บาทครับ เป็นผม ผมยังไม่กล้าให้ใครลองเล่นนะครับ หากผมเป็นเจ้าของร้าน แต่ นครหลวงการดนตรี วัดใจกันเลยครับ ผมหยิบมานี่ ถนอมและระวังให้เขาสุดๆ เลย ตามมารยาท แต่ Hamer เสียงมันใส และแน่นดีจริงๆ เปิดอะไรๆ เท่าๆกับตัวที่ผมจะซื้อ ราคาต่ำกว่า เทียบกันไม่ได้เลย เสียงมันพุ่งเห็นชัดๆ เป็นกีต้าร์ ที่
คัสตอม แต่งมาแล้วจากโรงงานทุกตัวครับ สุดยอด

   ใครสนใจรายละเีอียดว่า นครหลวงการดนตรี มีสาขาที่ไหนบ้าง ตามลิงค์นี้ได้เลย

                                                        http://www.capitalmusic.co.th/

     จากน้ันผมลองไปราวๆ 40 นาที กับกีต้าร์ 3 ตัว ก็ลากลับ  และขอบคุณพี่ดา และทีมงานที่ช่วยดูแลผม

    วันนี้ขอเชียร์นะครับ ไม่ได้ค่าโฆษณาสักบาทเดียว แต่สินจ้างของผมคือ น้ำใจของพนักงาน จาก นครหลวงการดนตรี นี่ล่ะครับ ที่มากล้นจริงๆ มือใหม่ๆ นี่ หากต้องการประสบการณ์ดีๆ จากร้านจำหน่าย
เครื่องดนตรีมีคุณภาพสูง พนักงานน้ำใจงาม ขอเชิญที่ร้านนี้ครับผม

 สวัสดีครับ
คุณบอลล์ NFGuitarist :0)

Tuesday, April 10, 2012

ความรู้กีต้าร์ #12. กีต้าร์กับงานเทศกาล ช่วยให้คุณสนุกได้

สวัสดีครับ นักกีต้าร์ไทย

    เมือเราเล่นกีต้าร์เป็นแล้ว แม้จะในระดับต้นๆ จับคอร์ทได้จำนวนหนึง นั่นก็ถือว่า เป็นของขวัญในชีวิตที่ประมาณค่าไม่ได้แล้วล่ะครับ นั่นเพราะ คุณสามารถเล่นเพลงที่คุณชอบ ได้ทุกเมื่อที่ต้องการ ไม่ใช่แค่ฟังอย่างเดียว แต่ ร้อง เล่น และ ฟัง ไปพร้อมๆ กัน

     เมื่อมองในแง่ร่างกาย เป็นการฝึกสมอง และระบบประสาทต่างๆ ไปในตัว ทางใจยังได้ความชื่่นบานสำราญใจอีกด้วย นอกจากกีฬา การทำสมาธิแล้ว การเล่นดนตรีคืออีกหนทาง(สำคัญ) ที่ชักพาจิตใจเข้าสู่โลกแห่งความสุขสงบอีกด้วย



     ถ้าเราเป็นนักอ่านสักหน่อยจะพบว่า ในคัมภีร์ หลุนอี่ ของท่าน ขงจื่อได้ระบุไว้ชัดเจนว่า การขัดเกลาจิตใจของคนโบราณ มี การศึกษาด้านจริยธรรม คุณธรรม ประกอบไปพร้อมกันกับ การเล่นดนตรีครับ ดังนั้น
ไม่แปลกที่ ท่านขงจื่อก็เล่นดนตรีเป็นครับ ไม่ได้เล่นเป็นอาชีพแต่เล่นเป็น

     ถ้าคุณลองเอาดนตรีเข้ามาในชีวิต ลองเล่น ร้อง และฟัง จะพบว่า วันที่ทุกข์ จะทุกข์น้อยลงกว่า 60 % วันที่สุขจะสุขกว่าเดิม 2-3 เท่าเป็นอย่างน้่อย นี่ล่ะครับ คือเสน่ห์ของการเล่นดนตรี

     แม้ว่าตอนนี้้ลองจะมีความเป็น Mobility เป็นอย่างยิ่่ง แท็ปเล็ต มือถือสุดฉลาด และ อื่นๆ การฟังเพลงทำง่ายแค่เอาหูฟังเสียบ คุณภาพเสียงเป็นเลิศ แต่มันก็แค่ ฟังครับ การเล่น การร้อง การฟัง พร้อมกันต่างหากที่สุดยอดกว่า ดังนั้น ความลงตัวในการมาหัดเล่นกีต้าร์ คือ สิ่งที่ยากจะหาอะไรมาเทียบ

      การเล่นกีต้าร์ สำหรับประสบการณ์โดยตรงของผม ที่ต่างจากที่อื่นชัดเจนคือ ผมคือคนที่หัดเล่น ที่ค่อยๆ บันทึกประสบการณ์แต่ละวันออกมาเป็น บล็อค ผมจึงเข้าใจคนที่เพิ่ิงหัดเล่นมากที่สุด ผมเห็นว่าเรา
ควรเล่นอย่างตั้งใจใน 2 เดือนแรก ถ้าฝึกได้วันละ 1 ชั่วโมง เช้าและเย็น ได้ 60 วันแรก ยังไงก็เล่นได้ครับ
ผมประกันได้ ถ้าเอาจริงตามนี้ เป็นแน่ๆ เล่นเพลงกับเพื่อนสนุกๆ ได้หมด เอาไปจีบสาวก็ยังได :0)



     อย่างไรก็ตาม หลายคนเลิกไปตั้งแต่ยังไม่ถึงเดือน กีต้าร์เลยกลายเป็นยาขมของใครคนนั้้นต่อไป ทั้ังๆที่ หัด 2 เดือนแรกให้ผ่านพ้น แล้ว สกิลนี้จะติดตัวไปตลอดชีวิต มันคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มเสียอีก เมื่อเป็นแล้ว
ทักษะมันจะติดตัว แต่ความชำนาญ ล้ำเลิศต้องอาศัยการฝึกซ้อมด้วยครับ ดังนั้น เด็กประถมสามารถเล่นเก่งกว่านักดนตรีอาชีพ ได้ หากเขาไม่ซ้อมอะไรเลย นี่เป็นเรื่องจริง ขณะที่เด็กซ้อมทุกวัน

     ดนตรีเป็นศิลปะ ดังนั้น มันคือ ความรู้+ฝีมือ ไม่เหมือน วิทยาศาสตร์ ที่เน้นความรู้แจ้งประจักษ์ ทำซ้ำได้ ดังนั้น วิศวกรที่ไม่เคยจับเครื่องจักร สักอย่างมาก่อน สามารถเปิดคู่มือ อ่านแล้ว ใช้เครื่องจักรได้ แต่ดนตรี เปิดตำราหมดไปทั้งห้องสมุด มันก็ไม่ทำให้คุณเล่น กีต้าร์ได้ ถ้าไม่ลงมือด้วยฝีมือของคุณ

     กีต้าร์นี่ดีนะครับ พาไปไหนก็ได้ คล่องตัว เป็นที่นิยมของผู้คน สะดวกในการแลกเปลี่ยนกันเล่นอีกด้วยและราคามัน ไม่แพงอีกด้วย ลองคิดดูผมอายุไม่น้อยแล้ว จับคอร์ทได้ราวๆ 12 คอร์ท เล่นเพลงได้ราวๆ 20-25 เพลงได้่ ผมยังรู้สึกว่า ผมพร้อมจะให้ความบันเทิงกับเพื่อนมากมาย นี่หัดมา 3 เดือนหากผมหัดไปอีก 3 ปี คุณคิดว่าผมน่าจะเล่นได้หลากหลายเพียงใด?  แนวคิดก็เหมือนเดิมครับ หัด 3 ปี แต่มีความสามารถติดตัวไปตลอดชีวิต คุ้มยิ่งกว่าคุ้มครับ ดังนั้น หัดกีต้าร์กันดีกว่า

    ลองมาคิดดูกันนะครับ พอเราเป็นแล้ว ไม่ต้องเก่งมาก เราจะเป็นสื่อความสนุกให้กับคนที่เรารู้จัก ครอบครัว เพื่อน อย่างไร เช่น

1.สำหรับการงาน   วันสำคัญในองค์กร เป็นขึ้นไปเล่นกีต้าร์ได้ ด้วยเพลงความหมายดีๆ มากมาย คอร์ทแสนง่ายก็มีเพียบ เท่านี้ เพื่อน หัวหน้า ผู้ใหญ่ ก็ประทับใจ มากเหลือหลาย

2.สำหรับชีวิต   เราจะไม่เหงา ฝุ้งซ่านมากเหมือนก่อน เพราะเราสร้างความสุข ด้วยตัวเราที่สร้างมันขึ้นมา
   ไม่ต้องพึ่งพา mp3, mp4 และสร้างความมั่นใจอีกด้วย ไม่ต้องเหนื่อยมากเหมือนการออกกำลังกาย ไม่ต้องสงบเหมือนทำสมาธิ แต่ เล่นดนตรีกลับให้ทั้ง การออกแรงและใจที่สงบลง จริงไหม

3.สำหรับการรวมญาติ  เราสร้างอะไรใหม่ๆ แนวคิดใหม่ ให้การพบพาไม่น่าเบื่อ เช่นร้องเพลง ในช่วงปีใหม่ สงกรานต์ เป็นต้น และปีต่อมา อาจมีญาติคนอื่น เอาอย่าง ยิ่งสนุก ตั้งวงกันได้เลย และ ลูกหลานวัยรุ่นจะมางานกันมากขึ้น เรียกว่า ดนตรีเป็นแม่เหล็ก หลอม ยุคสมัยกับประเพณีวัฒนธรรมก็ไม่ผิด

4.สำหรับความรัก   แต่งเพลง เล่นเพลง ในคนรัก เขาจะหวานกับเราขนาดไหน หรือ ใช้บอกรักยังได้ หากอกหัก ยังมีกีต้าร์ไว้ปลอบใจตัวเอง โอย สารพัดประโยชน์ จริงๆ 555

5.สำหรับฮวงจุ้ย   คนที่ศึกษาด้านนี้ รู้เหมือนกันว่า เสียง ระฆัง เป็นพลังชี่บวก ที่สร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้เรา ขณะที่เสียงดนตรีก็เช่นกัน เสียงกีต้าร์ ในบ้าน ในระดับที่พอประมาณ สลายความเครียด สร้างบรรยากาศที่ดี  ในสังคม ในที่ใด หากคนกำลังเบื่อ หยิบหนังสือเพลงออกมา แล้วเกากีต้าร์ไป รับรอง ความเงียบงันจะเหงาไป

6.สำหรับยามฉุกเฉิน   คนที่มีกีต้าร์ 1 ตัว เดินทางได้ทั่วประเทศแทบไม่ต้องใช้เงิน เพราะเปิดหมวกเล่นรับเงินได้ แม้ไม่ได้ค่าห้องพัก แต่ไม่อดข้าวแน่ๆ 100 %  ไม่ต้องสอนคนให้ตกปลา สอนเขาให้เล่นกีต้าร์เป็นดีกว่าครับ  เดี๋ยวนี้น้ำเสียปลาตายกันใหญ่แล้ว 555

และยังมีอีกมากมายหลายข้อ เท่าที่คุณจะคิดได้

    ขอให้หันมาฝึกกีต้าร์กันตั้งแต่ตอนนี้ครับ ชีวิตคุณในอีก 2-3 ปีและตลอดไปจากนี้ จะหันมาขอบคุณตัวคุณในตอนนี้ว่า ถูกต้องแล้ว ที่ไม่เสียเวลาพลาดสิ่งดีๆ ทักษะดีๆ ในการเล่นกีต้าร์เป็นในตอนนี้ไป

สวัสดี
คุณบอลล์ NFGuitarist
:o)

Thursday, April 5, 2012

ความรู้กีต้าร์ # 11. เสริมสร้างสมรรถภาพทาง การเกา 555

สวัสดีครับ นักกีต้าร์ไทย

   สัปดาห์ที่ผ่านมานับว่า เป็นอะไร ที่ต้องใช้สติพอสมควร แต่ก็ผ่านมาอย่าง สบายๆ วันนี้ผมจะขอเล่าประสบการณ์การหัด เกาครับ ขอเรียกมันว่า เป็นการฝึกรูปแบบ Fingerstyle ก็แล้วกัน บางคนบอกว่า Fingerstyle มันกินความมากไปกว่า แค่การเกาครับ เอาล่ะ ก็ว่ากันไป นั่นคือ การบ้าน ให้ นักกีต้าร์มือใหม่ไปต่อยอดครับผม สมเจตนารมณ์ของ บล็อคแห่งนี้

   การเกานั้นหากใครเคยเล่นกีต้าร์ หรือ ชอบมันจะพบว่า เคยเห็นกันมานานแล้ว ซึ่งจะเห็นตรงกันว่า เสียงที่ออกมามันจะ เสนาะหู หวาน มากกว่า การตีคอร์ท เพราะมันเป็น เสียงโน้ต นั่นเอง คือ โน้ตหลายตัวที่ดีดออกมาเกือบจะพร้อมๆ กันคือ เสียงคอร์ท พอเราแยกเสียงออกมา มันก็คือ การเอาเสียงโน้ตออกมาทีละตัวนั่นเองครับ

     การเกานั้น อย่าไปยึดติดแค่รูปแบบว่า ต้องอย่างนั้น อย่างนี้ เพราะว่า เราสามารถคิดเองได้ จะเพิ่มลดตรงไหน เองได้หมดครับ อยู่กับอารมณ์เรา และ อารมณ์เพลง อย่างไรก็ตาม เพื่อให้อารมณ์ ที่เราคิดเกาออกมา สามารถถ่ายทอด ทำซ้ำได้โดยคนอื่น เราจึงมีระบบ PIMA ขึ้นมา ผมขยายความไปแล้วในบทเรียนก่อน ลองอ่านกันดู ขอเรียกว่า ระบบ ภีมะ ครับ

      ภีมะ คืออะไร สั้นๆ ตรงนี้   P คือ นิ้วโป้ง   I นิ้วชี้   M นิ้วกลาง  และ A นิ้วนาง วิธีวางนิ้ว ก็คือ นิ้วโป้งมือข้างที่ใช้ดีดกีต้าร์ นิ้วโป้งคุม 3 สายบน ชี้เอารองไว้ใต้สายที่ 3 กลางและนางก็เอารองไว้สายล่างลงไปตามลำดับ ดังนั้น พอจะเกา ก็จะได้ไม่ต้องขยับมือไม่มามาก ไม่เมือย คล่องตัว และ พริ้ว หลายคนและผมเอง ส่วนมากจะใช้ นิ้วชี้ และ นิ้วโป้ง เกากีต้าร์ ทำให้ต้องขยับมือขึ้นลงไปมา ซึ่งเห็นได้ว่า ไม่มีประสิทธิภาพ

      ผมได้เปลี่ยนมาเกากีต้าร์ โดยใช้ ระบบ PIMA มาระยะหนึ่่งพบว่า มีประสิทธิภาพดีมาก จริงๆ และ การเกา ยังมีระบบอื่นด้วย ขอให้ลองต่อยอดกันเองครับ

      ทีนี้จากที่ฝึกมานะครับ การเกา ให้มีประสิทธิภาพนั้น ต้องทำอย่างไร มาดูกัน

1. ควรไว้เล็บนะครับ จากที่ผมลองฝึกมา พบว่า สัปดาห์ที่เรามีเล็บยาว ตัดแต่งเสียหน่อย การเกาพลาดจะลดลงไปมาก และเสียงน่าจะใสขึ้นจาก เล็บดีด อันนี้เรื่องปกติ เพราะมันคือ ปิ๊ค นั่นเอง แต่มันเป็นเล็บของเรา คนช่างสังเกตุจะพบว่า ใช้ ปิ๊คดีดจะทำให้ เสียงดังและใสขึ้นกว่า นิ้วของคนเรา

2. เล็บนิ้วโป้งควรยาวพิเศษ ไว้ยาว หน่อยครับ อาจารย์ผมนี่ ยาวราวๆ 1.5 ซ.ม. เลย ผมมาเห็นประโยชน์ของมันตอนที่เกานี่ล่ะครับ ยิ่งยาวองศาในการเกาของนิ้วโป้งจะง่ายขึ้นครับ

3.ควรหารูปแบบการเกา หลายๆ แบบมาฝึก หากได้ตำรา ที่ มีการเกาประกอบเพลง มีผังภาพ PIMA ในแต่ละห้องว่าต้องเกาอย่างไร มาฝึกจะดีมาก และก่อนเกากับเพลง ควรหัดรูปแบบ นั้นก่อนหลายๆ รอบ จะพบว่า พอไปเกาคอกับเพลง จะหายขึ้น

     บางตำรา มีแสดงไว้เลยว่า รูปแบบที่นิยมใช้เกา มี PIMA ที่ต่างกัน 15 รูปแบบ เป็นอย่างน้อย

4.การเกาหากยากสำหรับเรา ว่ามันจะไปลงที่คำไหน อย่างไร ใช้ฟังเสียงเอาครับ หากฝึกดีๆ เราจะรู้เองว่า ตอนนี้ อย่างนี้ เราต้องเปลี่ยนที่พยางค์ของคำไหน จริงๆ หากแม่นจังหวะ ก็ไม่ยากครับ

5.ฝึกบ่อยๆ


ทั้งหมด 5 ข้อก็นับว่า เพียงพอครับสำหรับ นักนิยม การเกา

สวัสดีครับ

คุณบอลล์ NFGuitarist


   

ข้อความจากบล็อกมาสเตอร์: แนวทางการเขียนของผมทำไมเป็นแบบนี้ ?

สวัสดีครับ นักกีต้าร์ไทย

   ท่านที่เป็นแฟนบทความของกระผม คงจะเห็นแล้วว่า อ่านแล้วจะสนุกไปกับบทความ และดูเหมือนว่า จะมีแง่มุม แปลกใหม่ มาเพิ่มตลอดเวลา บางท่านอาจจะนึกว่า ผมคงเค้น ให้ใช้เวลาหาหัวข้อมาเขียนกันน่าดูชม แต่ความจริงนั้น ผมไม่ได้คิดมาก่อนด้วยซ้ำครับ ว่าวันนี้จะเขียนอะไรดี




   อย่างไรก็ตาม แนวทางการเขียนนั้น ผมใช้วิธีคิดง่ายๆ ก็คือ เวลาผมไปตาม กระดาน เว็บ หรือ บล็อคต่างๆ ในกิจกรรมใดก็ตาม ผมพบน้อยมาก ที่จะมีบทความอ่านง่ายๆ สบายๆ คล้ายๆ Tip&Trick + สารคดี+ ประสบการณ์ + บวกภาพน่าสนใจ และอื่นๆ ซึ่งมือใหม่ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการเข้าสู่ กิจกรรมนั้นๆ บางทีเขียนกันแบบ จริงจังมากเกิน บางที่ เน้นขายของ สาระไม่เอา  บางที่ฮากันอย่างเดียว ผมมือใหม่หัดี้ขับ
ริิ่อ่านมาเขียนบทความกีต้าร์ จึงมีข้อดี เพราะผมรู้ว่ามือใหม่ต้องการอะไร

    งานเขียนลักษณะนี้ แม้แต่ฝรั่งก็ยังมีน้อยนะครับ ที่เป็นแบบนี้เพราะ สังคมเครือข่ายสังคม นั่นเอง ที่ส่วนมากเน้น จะบอกว่า วันนี้ฉันไปทำอะไรมา   มากกว่า มาร่วมกันศึกษาแลกเปลี่ยนความรู้ในสิ่งที่เราชอบกันหากเทียบกับในโลกจริง ก็คือ  เครือข่ายสังคม จะเน้น ฉันพอใจจะทำอะไร  แต่แนวทางการเขียนแบบนี้เหมือนกับ การแลกเปลี่ยนครับ นั่งล้อมวงแล้วเล่านิทาน ประมาณนั้น

    ผมเคยทำกิจกรรมหลายอย่าง เช่นงานอดิเรก ต่างๆ หากมีโอกาสไปเล่นที่ สังคมไหนในเน็ต ก็จะเข้าไปเขียนบทความลักษณะนี้ เพื่อช่วยกันดึงสังคม ให้พ้นมาจาก ผมคิดว่า แบบนี้ แบบนั้น หรือ จะขายของชิ้นนี้ชิ้นนั้น ในกระดานของต่างประเทศ เอาเล่นอะไรจะเจาะลึก ขวนขวาย สะสมความรู้ ทำให้ ข้อความเห็นต่างๆ มันดู มีประโยชน์ คือทางเราส่วนมากเล่นเอามัน พอคุยในกระดานก็จะเรื่องพื้นๆ เดิมๆ ซ้ำแล้ว ซ้ำอีกไม่ใช่ เจ้าของเว็บไม่รู้นะครับ แต่เขาคงคิดว่า ปล่อยให้ดูแลแบบพื้นๆ แบบนี้ เขาไม่เดือดร้อน เพราะยังไงก็มีโฆษณามาลง เขาไม่เดือดร้อนเลย เพราะได้เงินไปคนเดียว

    เมื่อแนวคิดพื้นๆ มีอยู่ดาษดื่น ต่อไป กระดานความเห็น หน้าสังคมออนไลน์ ของไทย หรือ ประเทศที่มาแนวเดียวกัน ก็จะมีแต่ ขยะความคิด ประเด็นซ้ำซาก ไม่สามารถนำไปอ้างอิง ศึกษาต่อยอดอะไรได้
แบบนี้เป็นต้น

     พฤติกรรมประหลาด ที่ผมไปเห็นมาคือไม่ใช่ที่เดียว หากใครลองไปให้แนวความรู้ จะขั้นไหนก็ตาม มักจะมี  ก๊ก มีเหล่า บางกลุ่มขึ้นมาแซวว่า เครียดไป ซึ่งผมงงว่า การเข้ามาในกระดาน ทั้งโลกเขาใช้แลกเปลี่ยนความเห็น ความรู้ ทำไมในประเทศเรามันกลับต่อต้าน เหมือนกับใช้กระดาน ในการระบายความเครียดกันมากกว่า ไม่ต่างจากร้านเหล้ากันเลยทีเดียว

     คนทีเขามาแบบจิตอาสา เลยหายกันไปหมด กระดานต่างๆ เกิด ยามเฝ้า่กระดาน เกิดพี่ใหญ่ ใครแตะไม่ได้ เห็นแย้งไม่ได้ ตกลง มีกระดานไว้ทำไม? ตัวผมเองไม่เคยไปเล่นในกระดานกีต้าร์ ที่ไหน และเขียนบทความความรู้นะครับ ทำไม? เพราะผมเห็นเขาทำกับคนที่ เข้าไปสอนกีต้าร์ แบบลึกๆ อย่างกับตัวน่ารังเกียจ ผมเลยไม่กล้าเขียนครับ

      ดีที่ยุคนี้มี บล็อค ผมก็ไม่ง้อ ใช้เครือข่ายสังคม เป็นประตูเสียเลย ยิงมาที่บล็อคจบครับ คนที่มาคือสนใจจริงๆ ลงตัวมาก

       อยากให้ประเทศไทย เกิดบล็อคทางด้าน ภูมิปัญญา การค้นคว้า ถ่ายทอดความรู้กันเยอะเพื่อต่อไปอีก 10 20 30 ปีเราจะได้เป็นประเทศที่ีมี เนื้อหาทางความรู้ดีๆ หลากหลาย มากที่สุดในโลกครับ

สวัสดีครับ
คุณบอลล์ NFGuitarist :0)

Wednesday, April 4, 2012

แรงบันดาลใจ #2 Alan Dawa Dolma เสียงแก้ว แก้วเสียงจากธิเบต

สวัสดีครับ นักกีต้าร์ไทย

    นักร้องคนนี้ เป็นชาวธิเบต ที่เติบโตในจีน และมีแมวมองมาพบ ต่อมาได้เป็นนักร้องอาชีพที่ญี่ปุ่น เธอชื่อ Alan Dawa Dolma นำมาให้ฟังกัน
เพื่อสร้างแรงบันดาลใจทางด้านดนตรี และ ถือว่า เป็น Ear training รูปแบบหนึ่งครับ จัดเต็มๆ ไปเลย ครบ 4 ตอน แล้วคุณจะพบโลกใหม่

                                                                         ส่วนที่ 1.

                                                                           ส่วนที่ 2.

                                                                          ส่วนที่ 3.
                                                                         
                                                                           ส่วนที่ 4.

        และ                              เธอคือเจ้าของเพลงธีมของหนังเรื่อง Red Cliff II ครับ นี่เวอร์ชั่น ญี่ปุ่น

                                                                     และนี่เวอร์ชั่นภาษาจีนครับ



   พบกันใหม่

สวัสดี
คุณบอลล์ NFGuitarist  :0)

ความรู้กีต้าร์ # 10 การดูแลเอาใจใส่ร่างกายของนักกีต้าร์

สวัสดีครับ นักกีต้าร์ไทย

    สิ่งที่เราควรจะดูแลตัวเองสำหรับนักกีต้าร์ นั่น มีดังนี้
1.ส่วนของเล็บมือ โดยเฉพาะมือที่จับคอร์ท สำหรับมือใหม่อาจจะลืมไปว่า เล็บที่ยาวมันทีผลต่อการจับคอร์ท มากๆ ครับ
    เราต้องระวังว่าเล็บควรตัดสั้นครับ

2. สำหรับมือที่ใช้ ดีด หรือเกากีต้าร์ ควรจะ ไว้ยาว คือนิ้วโป้ง ชี้  กลาง และ นาง ส่วนนิ้วก้อย ก็แล้วแต่ครับ ที่เป็นแบบนั้น
   ก็เพราะว่า เล็บที่ยาวขึ้นนั้น เมื่อเราตัดให้มีความสวยงามก็ย่อมใช้งานในการ เกา การดีด และเทคนิคอื่นๆ ได้ง่ายขึ้น ผมใน
   ฐานะมือใหม่เช่นกัน ก็ไว้เล็บมาได้ 2 เดือนแล้ว นิ้วโป้งตอนนี้ เล็บยาวได้ครึ่งหนึ่งของท่านอาจารย์ ที่สอนแล้ว คงอีก ราวๆ
   2-5 เดือนครับ จริงๆ ต้องยาวกว่านี้ แต่ เล็บของผม มันไม่ได้ทรงสวย เลยต้องแต่งหน่อย ตอนแต่งมันกินเล็บไปมากอยู่ เสียดาย
แต่ไม่เสียทรงครับ  ตามจริงแล้ว เราใช้ปลอกนิ้วเอาก็ได้  มันใช้สวมที่ปลายนิ้ว แล้วมีส่วนยื่นออกมา ดีดสาย สำหรับคนเล็บนิ้วสั้น
 มีสำหรับทุกนิ้ว ใครใจร้อน แต่อยาก เกา เท่ๆ ลองถามที่ร้านดูครับ ฝรั่งเรียกเขาว่า Finger Pick ดูตัวอย่างในรูปครับ ผมเห็น
แล้วนึกถึงหนังแนวนินจา ที่เขามีตะขอสวมที่มือ นั่นเลย

                                               แบบนี้ผมก็เพิ่งเคยเห็น เห็นว่าใช้กับพวกแมนโดลิน แบนโจด้วย 


                                                 นี่คือที่คุ้นตากัน สีขาว ปลายจะออกข้างนี่คือสำหรับนิ้วโป้งครับ จริงๆแล้ว
                                        ทำจากวัสดุได้มากมาย ทำเองยังได้ ที่เห็นมา มีตั้งแต่พลาสติก เหล็กกล้า จนทำมาจากทองก็มีครับ

   กีต้าร์นี่ เล่นมันแล้วหากเราหลงประเด็น มันจะงบบานปลาย เพราะมีของให้แต่ง ผมว่าไม่น้อยหน้าการแต่งรถครับ แต่ผมบอกตรงๆ ว่า
หากคิดว่า กีต้าร์คือการลงทุนให้กับอนาคต มันเป็นการลงทุนรูปแบบหนึ่ง ที่ให้ผลตอบแทน อย่างแรง เช่น พระเอก ริชาร์ด เกียร์ นี่เป็นนักนิยม
และสะสมกีต้าร์ พวก Gibson,Fender ประมาณนี้ เขาเพิ่งมีเปิดประมูลขาย รังสะสมกีต้าร์ของเขาไป คุณว่ามันน่าจะเป็นเงินเท่าไร
อาจารย์ผม ท่านยังบอกในคลาสหนึ่งว่า ผมเคยมี กีต้าร์ ยี่ห้อนี้ รุ่นนี้ ซื้อมา ราวๆ 2 หมื่นบาท ตอนขายไป ขายได้ 6 หมื่นบาท สุดยอดไหมครับ
เป็นกีต้าร์ไฟฟ้า ครับ ก็มีหลักๆ ก็ Gibson กับ Fender นี่ล่ะ เก็บไว้เถอะ 10 ปี ขึ้นไปกำไรแน่นอน ครับผม ตัวละ 700,000 $ ยังมีซื้อต่อ
กันมาแล้ว ตอนซื้อมา แค่ 2-300 $ เท่านั้น เชื่อไหม 555

 
3. ทรงผม นี่ผมขอยกมือค้านก่อนเลย ไม่จำเป็นต้องยาวครับ Eric Clapton ผมรองทรงครับ บางคนหัวเหน่งก็มี เอาเป็นว่า แล้วแต่ชอบ สำหรับผม
    เมื่อไรผมเล่นระดับมืออาชีพ ผมจะใส่สูท เล่นกีต้าร์ ร็อค และ ผมสั้น อิอิอิ

4. ตัวกีต้าร์  หากทุกอย่างดีหมด แต่ พอคนเห็นกีต้าร์คุณแล้ว รีบหันหน้าหนี คุณต้องปรับปรุงแล้วครับ เพราะ กีต้าร์ ราคาไม่กี่พัน โนเนม แต่เรารักเขาดูแลอย่างดี เช็ดถูอย่างน้อย ทุก 5-6 วัน หลังเล่นเป็นประจำ เขาก็จะรักคุณ ที่ด้านหน้า หรือ Front และ Side คือด้านข้าง มักจะมีคราบขี้ไคลจาก
แขนขวาไปติด หากทำความสะอาดประจำจะไม่ค่อยเห็นแต่ หากปล่อยไว้ มันจะเริ่มลูบ รู้สึกได้ถึงคราบ จากนั้นมันจะพอกเป็นก้อน ผมเห็นกีต้าร์เพื่อน
หลายปีก่อน แทบอ้วก เพราะมันเองก็ไม่เคยสังเกตุ มันถอดเสื้อเล่น ทำให้มี ขี้ไคลกองใหญ่ที่ Back หรือแผ่นไม้ด้านหลังกีต้าร์ด้วย เหวอออออ...ตัวใครตัวมันล่ะครับ ดังนั้นเช็ดๆๆๆๆๆ ถูๆๆๆๆ คร้าบ

5.นิ้วมือควรออกกำลัง ผมไปอ่านเจอบางที่ว่าการใช้เครื่องออกกำลังนิ้ว ที่ผมเคยเขียนลงไว้ มันอันตราย ทำลายนิ้ว ไร้สาระครับ มันช่วยได้ ฝรั่ง
เขาไปไหนต่อไหนกันแล้ว มันเหมือนนักกีฬาน่ะครับ ทำไมทุกกีฬาต้อง มีการฝึกเหวต เทรนนิ่ง คุณเอาไปคิดกันเอง แต่ซื้อเครื่องมือ อุปกรณ์มาก็
ขอให้อ่านคู่มือด้วย หากไปทำผิดๆ ถูก ก็อันตรายทั้งนั้น อย่างกีต้าร์ หากคุณไม่ วอร์มยืดเส้นสายก่อน เล่น มันก็อันตรายนะครับ

6.มือไม้ของนักกีต้าร์ ควรถนอมดีๆ อย่าไปยกของหนักเกินกำลัง มีอุปกรณ์ช่วยเช่นรถเข็น แบบแอร์โฮสเตส ก็ใช้มันไป อย่าแมนมาก เพราะในระยะยาว
  คนที่ยกของหนัก และ ฝึกกีต้าร์แบบเอาจริง น่าจะมีโอกาส เป็นโรคจากนิ้วมากกว่า คนทั่วไป เพราะอาการนิ้วล็อค นั่นเอง แต่ใครเป็นลองอ่านบทความของผม ที่ผ่านมาเร็วๆ นี้ ทำแล้วหาย ให้ทำช่วงต้นๆ ที่เริ่มมีอาการครับ

7.การพักผ่อน สังเกตุตัวเอง สายกลาง ในการฝึก ล้วนจำเป็น วันไหน หากยังไงๆ ก็ฝึกไม่ผ่าน เลิกเลยครับ แสดงว่า ร่างกายต้องการพัก ฝึกพรุ่งนี้ก็ได้ อย่าฝืน เพราะหากคุณทำร่างกายเจ็บ จิตใต้สำนึก อาจจะสั่งให้ เลิกเล่นไปเลย เป็นกลไกป้องกันตนเองของ มนุษย์ครับ เคยกันไหม ทีแรก รักกีต้าร์มาก
แต่มีระยะหนึ่งได้หยุดยาว จากนั้น ก็เลิกไปเลยนั่นล่ะครับ

8.พวกที่หัดสเกล นี่ ผมเจอมาบางคน มันไม่หายใจ จนกว่าจะไล่สเกลเสร็จ เช่น พวกสเกลไล่ยาวๆ อย่าง G major ก็เริ่มจาก G A B C D E F# G A B C D E F# G A B C D E F G คือ เริ่มจาก G หรือ ซอล มาจบที่ G ซอล เป็นต้น มันไล่จาก เฟร็ต 3 ไปจนถึงเฟร็ต 17 18 ไปโน่น หากเราไปอั้นลมหายใจ ลุ้นมาก ผมว่าไม่ค่อยดีนะครับ ที่อั้นไม่หายใจแปลว่าผิด ครูเขาถึงให้ เล่นช้าๆ กดไปตาม Beat ของ เมโทรนอมนั่นไง ค่อยๆ เล่น   มันแปลกว่า ยิ่งหัดช้าเท่าไร ความเร็วจะยิ่งเพิ่มขึ้น โห หยิน หยาง สุดๆ

9.ไม่ฝืนในการฝึก หากเริ่มมีอาการเสียงมันเพี้ยน กดแล้วบอด อ่อนแรง พักก่อน หากยังเป็นอีก แสดงว่า มันคือ ที่สุดของคุณในตอนนี้ แสดงว่า ข้อ เส้นเอ็น กล้ามเนื้อ ยังต้องพัฒนา เลิกฝึก แล้วค่อยอีก 12 ชั่วโมง ว่ากันใหม่

10.อย่าหมกมุ่นอยู่กับกีต้าร์ ชีวิตมีอะไรสนุกๆ อีกมาก ตั้งใจไว้ว่าจะเป็นนักกีต้าร์ ที่มีความสามารถ แต่ ให้เวลากับตัวเองอย่างน้อย 2-3 ปีครับ

 ทั้งหมดก็เป็นแนวทาง ที่ได้มาจากการค้นคว้าและ การที่ผมผ่านมาจากการเรียนกีต้าร์ แม้จะไม่นาน แต่ช่างจดช่างจำ ทำให้เห็นประเด็นต่างๆ จึงนำมา
แลกเปลี่ยนกันครับ พบกันใหม่ในบทความต่อไป

สวัสดีครับ
คุณบอลล์ NFGuitarist :0)


Tuesday, April 3, 2012

เำพลงนี้ตีคอร์ทง่าย # 1. เธอที่รัก

สวัสดีครับ นักกีต้าร์ไทย

   วันนี้นำเพลงที่ ใช้คอร์ทไม่ยากมาให้ฟังกันครับ ใครชอบ อยากลองฝีมือสำหรับมือใหม่
ก็ต่อยอด หาคอร์ทใน google กันได้เลยครับ  คอร์ทที่ใช้ในเพลงนี้ ก็ G,Em,Am และ D ครับ ตลอดทั้งเพลงนะนาย

 
   คนที่ยังไม่เคยจับ คอร์ท G กับ คอร์ท D ดูตามภาพครับ

             
                                        หมายเหตุ: คอร์ท G จับได้ 2 แบบนะครับเป็น กลางนางและก้อยก็ได้

                                                                              และ


                         
 
 ขอบคุณ: ที่มาของภาพและ Youtube.com

   ผมต้องรับหาเพลงที่ตีคอร์ทง่ายๆ แต่ไพเราะมาให้ท่านได้ศึกษากันบ่อยๆ เพราะไม่เช่นนั้น เลิกเล่นกันหมด กว่าจะจับคอร์ทยากๆ เป็น อย่าลืมนะครับว่า ลำพังคอร์ทง่ายๆ นี่ คุณก็เล่นเพลงได้เป็น ร้อยๆ พันๆ เพลงแล้วครับ   ยกตัวอย่าง ขาร็อค เช่น   หิน เหล็ก ไฟ บางคนนึกว่า ต้องจับ Power Chord อะไรแบบนี้ เขามาถอดมาเป็นคอร์ท พื้นฐานนี่ล่ะ ทั้งเพลงเลย ครับ เล่นง่ายไม่น่าเชื่อ เช่น เพลง  ศรัทธา  เพลง นางแมว อย่างนี้ นางแมว นี่ จับคอรท์ E เป็น เล่นไปแล้วเกือบจบเพลง คอร์ทเดียวจริงๆ จะมีก็อีก 2-3 คอร์ท ทั้งเพลง แต่ตีคอร์ท E ยาวตลอดเพลง ผมล่ะตกใจ ลองเล่นมาแล้ว อย่างฮาครับ
เดี๋ยวจะเอาเนื้อเพลงทั้งสองมาแจมครับ :0)

  รีบตั้งสายให้ถูกต้อง แล้วรีบดีดเพลงง่ายๆ แบบนี้ มากๆ บ่อยๆ ครับ แล้วคุณจะติดใจ

สวัสดีครับ
คุณบอลล์ NFGuitarist :0)




เกร็ดความรู้กีต้าร์ #9 ทักษะเสริมทักษะ กับ Fingerstyle Guitar

สวัสดีครับ นักกีต้าร์ไทย

   วันนี้จะมาเล่าเรื่องทักษะเสริมทักษะ ให้ได้อ่านกันครับ ในรอบราวๆ 2 เดือนที่ผ่านมานี้ ตัวผมได้ความรู้เรื่อง โน้ต และ การสตรัมบ์ คอร์ท ในรูปแบบที่ถูกต้องมามิใช่น้อย เล่นเพลงได้ หลายเพลง เลือกที่ชอบนะครับ คอร์ทก็ระดับกลางๆ ไม่ยากไม่ง่าย ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว ขอแนะนำว่า การรู้จักคอร์ทในเบื้องต้น ก็มีผลในความสนุกในการเล่นเพลงเช่นกัน ดังนี้

  คอร์ทที่คนไทยเรา ควรรู้จัก น่าจะมี C,Am,Dm,G7 และ G,D,Em,E,E7,A7,A และตัวยาก F  เป็นอย่างน้อย  เพียงจำนวน 12 คอร์ท เท่านี้คุณเล่นเพลง ไทยได้ ทุกแนว ไล่มาตั้งแต่ ลูกทุ่ง สตริง ร็อค หมอลำ และอื่นๆ เพื่อชีวิตนี่หวานเลย นี่ยังไม่นับเพลงของต่างชาติ เช่น ฝรั่ง จีน เกาหลี ญี่ป่น อีกเพียบ

   ยิ่งหากคุณรู้จัก วงรอบ แห่ง 4th และ 5th (ไว้จะนำมาอธิบายในภายหลัง) ใช้ คาโป เป็น คุณก็เล่นได้เพิ่มอีกเป็น ร้อยเป็นพันเท่า แต่บางที่เรียกว่า ลักไก่ 555 ดังนั้น เรียนคอร์ทเพิ่ม จับคอร์ทยากให้ได้ ก็จะได้ภูมิใจครับ แต่เวลาใช้ คาโป เอาก็ได้ ฮ่ะๆๆๆ

    เอาล่ะก่อนจะพาท่านไปไหนต่อไหน ก็ขอฝากไว้นะครับ หัด 12 คอร์ทข้างต้นให้ได้ครับ สำหรับคอร์ท F นี่หากจับแล้วจับอีก ไม่ได้ ต้องดูที่ ความสูงของสาย ที่เฟร็ต 12 ครับ บางทีสายมันสูงมากเกินไปจาเฟร็ต คงต้องขัด ตัวรองสาย Saddle หรือ ขันคอกัน สำหรับกีต้าร์บางตัว เพราะผมนี่ โดนมากับตัว จับ F ไม่ได้ๆ มีแต่เกือบได้ พอได้ ก็ดีดไม่กี่ที นิ้วหมดแรง งง พออาจารย์ขอดูกีต้าร์ ต๊กกะใจ ท่านบอกว่า คุณไปหาช่าง เถอะนะ เพราะสายมันสูงเกินไป นี่ล่ะที่ทำให้คุณจับ คอร์ท F ไม่ได้น่ะ แต่ผมก็ขัดเอง ทำเองหมดครับ จนได้กีต้าร์ตัวนี้ ในสภาพปรับแต่งใหม่มาใช้ในปัจจุบัน โดยมีอาจารย์ คอนเฟิร์มเองเลยว่า ลองแล้ว จับนิ่ม และเสียงดีเสียด้วย 555 หากใครไม่ยากเจอแบบผม เลือกกีต้าร์ ยี่ห้อ ดังๆ หน่อยดีที่สุดครับ เพราะมันเหมือน รถที่ปรับแต่ง คัสตอมมาพร้อมขับจากโรงงานนั่นล่ะ ส่วนของผมนี่ประมาณ รถซื้อมาแล้วแต่งเองครับ อันโน้นได้ของราคาแพง พร้อมใช้ ของผม ราคาไม่แพงแต่ ได้ลองฝีมือครับ

       หลังจากผมขัด Saddle กับขันคอกีต้าร์ให้ตรง ผมแทบจะกด F ได้ทันที แต่แน่ล่ะ ต้องใช้เวลาหน่อย แต่รู้เลย สายมันเบาลงไปเยอะมากครับ

       ทีนี้ที่ว่า ทักษะเสริมทักษะนี่มันอะไรกัน ก็ในระยะนี้ ผมเริ่ม บรรจุ การฝึกเล่นกีต้าร์ แบบ Fingerstyle คือ การเกา นั่นล่ะครับ เพิ่มเติม แต่หากเล่นแบบนี้แต่ใช่ Pick กีต้าร์ เราจะเรียกว่า Flatpicking ครับ แต่ยังไงการเกา มันละมุนกว่ากันครับ แต่ก็ไม่แน่อีก เพราะหากเซียนเล่น ปิ๊กอาจไหลลื่นราวกับ สายน้ำก็เป็นได้ เพราะมันอยู่ ที่ทักษะนั่นเอง

      การเกา นี้ คือการใช้นิ้ว 4 นิ้วด้วยกัน คนถนัดขวา จะจับคอร์ทด้วยมือซ้าย มือขวาดีด หรือเกาครับ
นิ้วที่ใช้คือ นิ้วมือขวา (เรื่องขวา ซ้ายนี่อย่างฮาครับ Taxi 80-90 % ไม่รู้ซ้ายขวานะครับ เวลามาส่งผมที่ที่พัก บอกพี่ออกขวา กลับไปซ้ายเป็นประจำ เอาเข้าไป)



         "ภีมะ"
                            
.
   นิ้วที่ใช้เกากีต้าร์ มี    ดังนี้

     1. นิ้วโป้ง     เรียกว่านิ้ว   p

     2. นิ้วชี้         เรียกว่านิ้ว   i
    
      3.นิ้วกลาง    เรียกว่านิ้ว  m

     4.นิ้วนาง      เรียกว่า นิ้ว  a


  เอาง่ายๆ ไม่ใช้นิ้วก้อยครับ แต่อย่าไปตัดทิ้งนะครับ เก็บไว้แบบเติมล่ะดีที่สุด 555

วิธีจำง่ายๆ ว่านิ้วไหนเรียกว่าอะไร จำไปเลยที่เดียวว่า     ภีมะ   = Pima

  จะเห็นว่าง่ายมาก แล้ว ภีมะ นี่ผมจำแบบนี้เพราะเป็นตัวละครหนึ่งใน มหาภารตะยุทธ์ ล่ะครับ

โดยแต่ละนิ้ว โป้ง ชี้ กลาง และนาง จะมีพื้นที่สายที่ต้องดูแลต่างกันไป ดังนี้

   1. นิ้วโป้ง ดูแล สายเสียง Bass หรือ เบส อย่า บาดส์ นะครับ รวม 3 สายคือ

        สาย 4,5 และ 6 หรือ 3 สายหนาๆ ด้านบน นั่นเอง สายบนคือ สาย 6 หรือ E เสียงต่ำ

  2.นิ้วชี้ ดูแลสาย 1 สาย คือ สายที่  3 เท่านั้น
  3.นิ้วกลาง ดูแล 1 สาย คือ สายที่ 2 เท่านั้น
  4.นิ้วชี้ ดูแล 1 สาย คือ สายที่ 1 เท่านั้น

 รวมเป็น 6 สาย แล้วนะครับ หากถามว่า แล้วสายที่ 7 ล่ะ อยู่ไหน 555 อันนี้แนะนำให้กลับไปอ่านกันใหม่ครับ กีต้าร์ มี 6 สายนะครับ สำหรับบทเรียนของผม แต่จริงๆ กีต้าร์ 7 สาย 12 สายก็มี แต่ ส่วนน้อยครับ
และจากที่ทุกนิ้ว ควบคุม 6 สายไว้หมดแล้ว ทำให้ไม่ต้อง ใช้นิ้วก้อยครับ

                                                  ใครอยากลองวิชา คว้ากีต้าร์มาดีตามครับ มีแบบสโลว์ให้ดูด้วย
                                    ดูที่ Youtube.com  http://youtu.be/QSwOD9fbB4w

    เวลาเล่นแบบ Fingerstyle ทำให้ได้ยินคอร์ทออกมาเป็นเสียงตัวโน้ต แทนที่จะเป็นเสียง ตรีมๆ ของคอร์ท หากเพลงใดเล่นคอร์ทเพราะอยู่แล้ว พอมาเล่นแบบ Fingerstyle ก็จะทำให้หวานขึ้น แพรวพราวมากขึ้น ถามว่า อ้าวแบบนี้ แนว Rock ก็ไม่มีน่ะสิ   Rock น่ะตัวดีเลยครับ แต่เป็นการใช้ Pick เล่นครับ
ที่เรียกว่า Flatpicking นั่นเอง คือ มีทั้ง คอร์ท มีทั้ง เล่นโน้ตในคอร์ท มีทั้งแยกออกไปเป็นตัวโน้ต ก็ไล่สเกลนั่นเอง อย่างเยอะครับ แต่ด้วยเสียง ความเร็ว จึงไม่เรียกเหมือนกัน

     ผมคิดว่ากีต้าไฟฟ้า มันคือ ตรงกลาง ของ กีต้าร์คลาสสิค กับ กีต้าร์อะคูสติก หรือ กีต้าร์โปร่ง คือ จริงๆ แล้ว มันนำภูมิปัญญาทั้งหมดมาได้ที่ตัวเองครับ ถามว่ากีต้าร์ไฟฟ้าเล่นเพลง หวานๆ ได้ไหม ได้แน่นอน แต่เคยเห็นไหม ไม่ค่อยเห็นนะครับ นั่นเพราะ ค่านิยมครับ แต่จริง เล่นกันได้หมด พี่หมู คาไล
บอกไว้ในคู้มือฝึกว่า กีต้าร์ตัวหนึ่ง เล่นได้ทุกแนวล่ะ อยู่ที่คนเล่นต่างหาก ผมเชื่อตามนี้ครับ

     ขนาดผมยังหัดไล่สเกล แบบกีต้าร์ไฟฟ้า บนกีต้าร์โปร่งเลย เห็นเดือนก่อนผมยังเล่นไม่ได้เรื่อง ตอนนี้ ผมเล่นสเกลได้แล้ว และเร็วด้วย ไปลองกีต้าร์ไฟฟ้า ก็ปรับนิ้วนิดเดียวก็เล่นได้เลย ดังนั้นมันหัดแนวไหน บนกีต้าร์อะไรได้หมดล่ะ อาจมีข้อยกเว้นเล็กน้อย เช่น สเกล A, Ab, Bb นี่เล่นบนกีต้ารโปร่งธรรมดาไม่ขอแนะนำ เพราะนิ้วหยิกกันพอดี ตอนท้ายๆ น่ะ มันไปกันเลยเฟร็ต 17 แล้ว ต้องใช้แบบ Cutaway Guitar ที่ออกแบบมาเพื่อการนี้โดนเพฉาะ ถึงจะไหวนะครับ อ่านตรงนี้ไม่เข้าใจ ดูรูปกันดีกว่า


             

        จะเห็นว่าตรงคอด้านขวาลำตัวกีต้าร์จะยุบเว้าลงไป ก็เพื่อให้นิ้วเราไล่ลงไปในส่วนเฟร็ตลึกๆ ได้สะดวกนั่นเอง
  
        ต้องการข้อมูลเพิ่มเติม เชิญได้ที่--->  http://en.wikipedia.org/wiki/Cutaway_(guitar)

  เอ้ามาเข้าเรื่องกันเสียที ที่บอกว่า ทักษะเสริมทักษะก็เพราะว่า เมื่อมาหัด Fingerstyle จริงๆ จังๆ กลับพบว่า นิ้วมันคล่องกว่าเมื่อก่อน ก็อดสงสัยตัวเองไม่ได้ ว่าทำไม พอนึกได้ก็หัวเราะ เพราะว่า ทักษะทางดนตรี นี่มันเหมือนการเพาะกาย กลายๆ นั่นคือ นิ้วจะข้างซ้าย ข้างขวา เมื่อได้หัด ฝึกซ้อม มาได้สัก 2 เดือนแบบผม มันย่อมเกิดความเคยชิน เกิดความพร้อมของกล้ามเนื้อ ข้อ เส้นเอ็นของมือนั่นเอง ดังนั้น
ไอ้ทีเคยจับคอร์ทแล้ว บอดสนิท มันก็บอดน้อยลง ที่มือซ้าย ไอ้ที่ ไล่เกาทีละซ้ายแล้วมันไม่คล่อง ผิดบ่อยมาก ก็น้อยลงไปมาก เพราะเวลาหัดไล่สเกล ผมต้องดีดที่ละเส้น ด้วยความเร็วกว่าการเกามากมายแต่ก็ดีดมาจนคล่องแล้ว ดังนั้น ความทรงจำจากการฝึก จึงได้ถ่ายทอดมายัง สกิล อื่นๆ ของผมด้วย พูดง่ายๆ คือ ทักษะกีต้าร์ จะอะไรก็ตาม หัดไปเลยครับ หัดให้ถูกทางแล้วกัน แล้วมันจะทำให้ทักษะใหม่ๆ ฝึกได้ง่ายขึ้นมากๆ ครับ

    ตอนนี้ผมเล่น Fingerstyle ได้บ้างแล้ว ทั้งแบบ จังหวะ 3/4 (3 beat ต่อ 1 ห้อง) Rhythm เขบ็ต 2 ชั้น(1 beat เคาะ 2 ครั้ง)......และ 4/4  Rhythm เขบ็ต 3 ชั้น (1 beat เคาะ 3 ครั้ง)

     แต่ยังไม่เข้าเพลงเพราะว่า อยากให้เล่นคล่องๆ ก่อน โดยหัดกับเมโทรนอม สัก 1-2 สัปดาห์ครับ
หัดให้ช้าที่สุด ราวๆ 40 นะครับ สำหรับการฝึกเกา กับระบบ pima นิ้งทั้ง 4 ช้ากว่านี้ยิ่งดีครับ เดี๋ยวคราวหน้าผม จะสอนการปรับ เมโทรนอมให้ เข้ากับการเกา ทั้งส่วนของ Beat และ Rhythm ให้อ่านกันแบบเจาะลึกครับ


สวัสดีครับ
คุณบอลล์ NFGuitarist :0)

       

Monday, April 2, 2012

แรงบันดาลใจ # 1.Saori Yuki - Scat in the Dark

Saori Yuki - Scat in the Dark
เพลงหวานจากญี่ปุ่น



เกร็ดความรู้ กีต้าร์ # 8 สัพเพเหระ ทางอินเตอร์เน็ต ฝึกแบบมีรูปแบบจะพัฒนาเร็วกว่า

สวัสดีครับ นักกีต้าร์ไทย

    วันนี้ผมในฐานะที่หัดกีต้าร์มาอย่างต่อเนื่อง  เป็นเวลากว่า 1 เดือนกับ 27 วัน หรือ 57 วันผมพบว่า สิ่งเดียวที่ขัดขวางการพัฒนาฝีมือในการเล่นกีต้าร์
ก็คือ ความคิดของเรานั่นเอง  การไม่ขี้เกียจ การขยันทุ่มเท ยังไม่พอครับ คุณแค่มีทักษะเพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ การที่จะเป็น หรือเล่นเป็น นั้นต้องมี วิธีคิดด้วยครับ
ลองนึกดูว่า หากคุณมีความจำเป็นต้องเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง ด้วยการเล่นกีต้าร์ คุณจะต้องเล่นให้เป็นในกี่เดือน ?




    ผมเชื่อว่า มีนักกีต้าร์มากมาย ที่หัดจับคอร์ทง่ายๆ ไม่ถึงเดือน ก็ออกไปทำงาน เพื่อเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้ เพราะความจำเป็นบังคับ ถามว่า ตอนนั้นก่อนจะต้องเล่นเป็นใน 1 เดือนให้ได้ เขาต้องคิดแบบไหน  มาลองคิดกันเล่นๆ สวมบทบาทกันหน่อย

     1.เขาต้องหากีต้าร์สักตัว ที่พอใช้ได้ให้เร็วที่สุด   ดังนั้นจึงเริ่มออกแสวงหาทันที ไม่ว่าจะไปหาตามโรงรับจำนำ ซื้อต่อมือสอง สาม สี่ ราคาเหมือนได้เปล่า หรือ ยืมเพื่อน แต่เขาก็หามันมาจนได้ เพราะ ไม่มีกีต้าร์แล้วจะฝึกอย่างไร

     2.พอได้กีต้าร์มาแล้ว เขามีปัญหาการตั้งสาย จึงรีบเจียดเงินอีก 5-600 บาทซื้อตัวจูนเนอร์มา

     3.รีบไปให้เพื่อนช่วยสอนการจับคอร์ท ง่ายๆ หัดตีคอร์ท เช้ายันเย็น

    4.รีบสอบถามเพื่อนว่า อยากได้เพลง ที่ใช้คอร์ท 4 คอร์ทวนเวียนแบบนี้สัก 20 เพลง เพื่อนหาให้ได้ไหม

    5.เขาได้เพลงมาหัดตีจนชำนาญ ดังนั้น แม้ว่า จะไม่สามารถตีคอร์ทได้เนียน แต่เขาเล่นเพลงได้แล้ว ค่อยไปตายเอาดาบหน้า

  จากนั้น เราก็ไปเปิดหมวก ได้เงินวันละ 1-200 บาท แบบนี้ จากคนสิ้นหนทางมามีรายได้ เดือนละราวๆ 3-6000 บาท
กับการไม่ชอบเป็นลูกจ้างใคร แบบนี้ ดีกว่าอยู่เฉยๆ ใช่ไหมครับ

  ทำไมเขาถึงทำได้ ?  ตอบผมสิครับ นั่นเพราะความจำเป็นมันบังคับ นั่นเอง

 ชาวเราล่ะ ที่ไม่ได้มีอะไรมาบังคับจะเล่นตอนไหน เรื่องของฉัน ผ่านไป 1 เดือน 2 เดือน จน 4 เดือนเข้าให้แล้ว คุณเล่นในระดับไปเปิดหมวกได้หรือยัง
ลองคิดกันดูครับ ดังนั้น แสดงว่า หากปล่อยมันไว้แบบนี้ เราก็ถูกกำจัดด้วยความคิดของเราเองว่า ต้องเรียนไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็เก่งไปเอง แบบนี้ ผมว่า เราพลาดโอกาสดีๆ ไปนะครับ เพราะเรามีเวลา ไม่มีความกดดัน ทำไมไม่ลองหัดอะไรให้เป็นแบบแผน มีเป้าหมายกันมากขึ้นล่ะ

  แนวคิดของผมคือ

   1.เรียนตามแบบแผนถ้ามีโอกาส
   2.เรียนเพิ่มเติมเอง เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปเปล่าๆ

  บทเรียนในชั้นเรียนกีต้าร์ สถาบันต่างๆ มักคล้ายๆ กันคือ เรียนสัปดาห์ล่ะ 1 ชั่วโมง กลับไปฝึกราวๆ 6 วัน แล้วกลับมาเรียนกันใหม่ คอร์สละ ประมาณ 12 ชั่วโมง เรียนประมาณ 2-3 ปี แบบเอาจริงก็สามารถไปเป็นอาจารย์ได้ มันเป็นแบบนี้

    ทำให้ใช้เวลามากมาย สำหรับบางคนมีเวลาซ้อมมากมาย ทำไมต้องรอนานขนาดนั้น

  สำหรับผม ผมมีแนวทางการฝึกของตัวเองดังนี้์

สิ่งที่ควรฝึก

     1.เรียนโน้ต ทฤษฎีดนตรี ด้วยตนเอง ราว 15-20 นาที
     2.ซ้อมตามที่อาจารย์มอบหมาย ไม่ต่ำกว่า 30 นาที
     3.หัดไล่สเกล ต่างๆ เช่น C,G และD Major มันมีกว่า 24 สเกล น่ะครับ และ พวก Pentatronic (เดี๋ยวอธิบายครับ)
     4.หัดเล่นเพลง ข้อนี้ควรทำเพราะหาก ซ้อมอะไรมาได้สัก 20 วันไม่มีเล่นเพลงเองเลย ผมว่า อาจเบื่อได้
     5.อย่าไปเล่นเพลงแนวเดียว ให้หาเพลง หลายแนว เอาให้เข้ากับคอร์ทที่เรารู้จักหลายๆ เพลง
     6.หัดตีคอร์ท และฝึกคอร์ท อย่างน้อย 3 คอร์ทใหม่ทุกสัปดาห์
     7.ฝึกการฟัง Ear Training คือการหัดฟังตัวโน้ต แยกแยะได้ ลองไปหาในเน็ตครับ
     8.หาความรู้ เกร็ด ความรู้รอบตัวเกี่ยวกับกีต้าร์ อ่านเป็นประจำ
     9.หัดเล่นเพลงแบบ เกากีต้าร์ เช่น Picking หรือ Finger style ด้วยระบบ PIMA
   10.หัดเล่นเพลง จาก TAB ทีบอกการดีด เป็นระบบ ตำแหน่งสาย และ ช่องเฟร็ต

    เป็นต้น

  จากนั้นเอา 10 ข้อข้างต้น มาแบ่งฝึกเป็นแบบรายวันตามแต่ที่เห็นควร ผมเชื่อว่าคุณจะเก่ง กว่าการไม่วางแนวการฝึกครับ จริงๆ แล้ว นี่เป็นเพียงตัวอย่างเราอาจจะ เพิ่มลดได้มากกว่านี้ ครับ แต่จากตัวอย่างข้างต้น ไม่ถึง 6 เดือนคุณจะกลายเป็นคนละคนจากวันนี้ เชื่อผม

    เพราะคุณจะมีทักษะ เอาง่ายๆ คุณรู้คอร์ทมากมาย เวลาเล่นจะได้เสียงหลากหลายกว่า แพรวพราวกว่า  คุณจะหลุดไปจากความจำเจ เมื่อ สามารถซื้อหนังสือ TAB เพลงใหม่ๆ มาดูไม่นานก็เล่นได้เลย รวดเร็วกว่าคนที่ไหมเคยหัดหลายเท่า คุณสามารถแกะเพลงได้ง่าย คุณสามารถเกาเพลงใหม่ๆ ได้เร็วเพราะ คุณกับระบบ PIMA เป็นต้น

     คุณหัดการโซโล่กีต้าร์ได้เร็วขึ้น เพราะมีพืนฐาน การไล่สเกล มาก่อน คุณไปหัด กีต้าร์คลาสสิคได้เร็วขึ้น เพราะรู้เรื่องโน้ต ขณะที่ หากมีโน้ตไม่ยากนักของเพลงใดๆ คุณก็เล่นได้ ไปเล่นที่ไหน ก็จะมีคนเห็นว่า คุณเล่นกีต้าร์ได้หลายแนว เป็นต้น

    จากแนวคิดข้างต้น ผมคิดว่า แม้ไม่ได้เก่งมากมายในปีแรก แต่คุณเป็นนักกีต้าร์คุณภาพคนหนึ่งแน่นอนครับ หากพัฒนาต่อเนื่องไปสัก 2-3 ปีล่ะจะเกิดอะไรขึ้น  คุณยังเป็นครูสอนได้อีกด้วยนะครับ

    สำหรับผมอาจมีเสริมพิเศษทางด้านทักษะในการ Set up เบื้องต้น เช่น การขันคอกีต้าร์ การขัด Saddle การสัมผัสกีต้าร์ มามาก จะทำให้เรา มีความแพรวพราวมากขึ้น สามารถถ่ายทอดให้คนรู้จัก ลูกศิษย์ได้อีกด้วยครับ

ลองนำไปใช้งานครับ
สวัสดี
คุณบอลล์ NFGuitarist :0)

Sunday, April 1, 2012

สวัสดีครับ นักกีต้าร์ไทย

     วันนี้ก็ให้อาจารย์ผมดูกีต้าร์ที่ได้ ปรับโน่นปรับนี่ ขันคอ ท่านลองเล่นดูก็พบว่า เสียงโอเค กดไม่เจ็บมือแล้ว ท่านว่า ทำเองดีแล้ว ใช้ได้เลย ผมล่ะยิ้มแก้มปริเพราะกว่าจะได้ขนาดนี้ มันอย่างเหนื่อยครับ คือต้องไม่หลอกตัวเอง และ ไม่ขี้เกียจ ที่แรกผมจะปล่อยให้คอมันงอกว่านี้ เพราะตั้งสายหมดแล้ว แต่มันสังเกตุ 2 ข้อคือ สายมันสูงกว่าเดิมก่อนทำเสียอีกแล้วก็ กดเวลาฝึกไล่สเกล มันเพี้ยนไปหมด เหมือนกดลงไปในแอ่งซึ่งก็ตามจริงเพราะมันแอ่นครับ เลย เสียเวลาตัดสินใจทำใหม่หมดเลย รอบนี้เลยได้ ของดีมาจนได้ครับ

     วันนี้ก็เหมือนการเล่นการสตรัมบ์ คอร์ท หรือ ตีคอร์ทให้เข้าจังหวะ และ ราบลื่น ไหลลื่น ผมตกตั้งแต่นาทีแรก จนท่านอาจารย์ ค่อยๆ แนะ ดังนี้

    1. การสตัมบ์ต้องสม่ำเสมอ ไหลลื่น ไม่เร่ง ช้าไป เร็วไป

     2.ข้อมือต้องแข็งแรงพอ ไม่กระดก งอตามการสตรัมบ์ ตีลง ตีขึ้น ล้วนภาพลวงตา ต้องให้มันเหมือนกัน
   
    3.นิ้วจับปิ๊ก ไม่แน่นไป ไม่บางไป เพื่อให้เกิดอาการกระดกของปิ๊กที่มันจะหักล้างกับแรงต้านของสาย

   และแน่นอน ต้องหัดกับเมโทรนอม ด้วย

   ผมหัดมา 4 สัปดาห์ ท่านอาจารย์แนะนำ เพียงไม่ถึง 1 ชั่วโมง ผมสตัมบ์อย่างถูกต้องได้ทันที จึงขอบอกว่า หากมีโอกาสนะครับ วิชาดนตรีต่างๆ นี่ เข้าเรียนเป็นเรื่องราวดีที่สุดครับ มีอาจารย์ชี้แนะ ร่นเวลาได้เป็น
10 ปี นะผมว่า แล้วเป็นศิษย์มีครูด้วย


    ทีนี้ก็ต้องฝึกให้เนียนๆ สัปดาห์หน้าไป เล่นให้ท่านชมอีกครั้งครับ

สวัสดีครับ
คุณบอลล์ NFGuitarist
:0)